TiL สนใจลงทุน ‘ท่าเรือแหลมฉบัง’ เฟสใหม่ คาดเตรียมเปิดประมูลปี’72

<p></p><p>นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2568 ได้หารือร่วมกับนายราฟาเอล โบเดน (Mr.Rapha?l Boden) รองผู้อำนวยการด้านการลงทุนท่าเรือ บริษัท เทอร์มินัล อินเวสเมนท์ จำกัด (TiL) (Terminal Investment Limited) และคณะ ซึ่งเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจบริหารท่าเรือสำหรับตู้สินค้า มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ บริหารท่าเรือใน 31 ประเทศ ตามเส้นทางการเดินเรือหลักทั่วโลก</p><p> เช่น สิงคโปร์ เกาหลีใต้ สหรัฐอเมริกา เนเธอร์แลนด์ เบลเยียม สเปน การหารือกับ TiL ในครั้งนี้เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับการลงทุน เพื่อสนับสนุนโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง (ทลฉ.) ระยะที่ 3 และการลงทุนในท่าเรือใหม่ E1 และ E2</p><p> นางมนพรกล่าวว่า รัฐบาลและกระทรวงคมนาคมได้มุ่งมั่นผลักดันการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งสินค้าและเพิ่มขีดความสามารถของท่าเรือแหลมฉบังให้สอดรับกับการพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งทะเลตะวันออกให้เป็นศูนย์กลางการขนส่งของภูมิภาคอินโดจีนและเป็นจุดเชื่อมโยงไปสู่จีนและอินเดีย อันเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญในการเชื่อมโยงการขนส่งสินค้า ตามแผนการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก</p><p> รวมถึงมีเป้าหมายในการปรับปรุงกระบวนการทำงานให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อผลักดันให้ท่าเรือแหลมฉบังพัฒนาสู่การเป็นพอร์ตสีเขียว (Green Port) ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการรักษาความยั่งยืนของโลก และขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยในอนาคต</p><p> คาดให้บริการท่าเรือ F1 ได้ปี 2570</p><p> นางมนพรกล่าวต่อว่า โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังระยะที่ 3 มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มขีดความสามารถการรองรับปริมาณตู้สินค้าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นในอนาคต โดยปัจจุบันสามารถรองรับตู้สินค้าได้ 11.1 ล้าน TEU/ปี และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 10 ล้าน TEU/ปี ในปี 2568 ตามการขยายตัวทางเศรษฐกิจและการค้าของประเทศ แบ่งออกเป็น 4 ส่วนหลัก</p><p> ได้แก่ งานก่อสร้างทางทะเล งานก่อสร้างอาคารท่าเทียบเรือและระบบสาธารณูปโภค งานก่อสร้างระบบรถไฟ และงานจัดหาเครื่องมือและระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการตามแผนที่กำหนด โดยคาดว่าจะสามารถให้บริการท่าเทียบเรือ F1 ได้ในปี 2570 และจะก่อสร้างท่าเทียบเรือ F2 ในปี 2572 กำหนดเปิดให้บริการในปี 2574</p><p> จ่อคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนปี 2572</p><p> นางมนพรกล่าวว่า จากรายงานการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 กำหนดไว้ว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการในขั้นตอนการคัดเลือกบริษัทเอกชน เพื่อร่วมลงทุนท่าเทียบเรือ E พร้อมทั้งลงนามสัญญาในปี 2572 เพื่อให้สามารถก่อสร้างเทียบเรือ E0 ได้ในปี 2573 และเปิดให้บริการในปี 2575 ส่วนท่าเทียบเรือ E1 และ E2 จะเริ่มก่อสร้างในปี 2575 และปี 2577 ตามลำดับ</p><p> ทั้งนี้ นางมนพรกล่าวว่า บริษัท เทอร์มินัล อินเวสเมนท์ จำกัด (TiL) (Terminal Investment Limited (TiL) รวมถึง บริษัท เดินเรือเมดิเตอร์เรเนียน (MSC) (Mediterranean Shipping Company (MSC) ที่ให้ความสนใจในการร่วมลงทุนในโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าความร่วมมือในครั้งนี้จะนำไปสู่การขยายความสัมพันธ์และความร่วมมือทางธุรกิจระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนในอนาคตต่อไป</p><p style="font-size:13px;">20/2/2568 ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ ( 20 กุมภาพันธ์ 2568 )</p>