อัพเดตอสังหาฯ “ลิปตพัลลภ” พราว เรียลเอสเตทสุดแกร่ง-มุ่งโตยั่งยืนปี’68-69

<p></p><p>โค้งท้ายปี 2567 ได้เวลาอัพเดตพอร์ตธุรกิจของบริษัทอสังหาริมทรัพย์แบรนด์ดังอีกราย “บริษัท พราว เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน)” ของตระกูลลิปตพัลลภ ที่มี “สุวัจน์ ลิปตพัลลภ” นักการเมืองรุ่นใหญ่ อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีเกือบครบทุกกระทรวงถือหางเสือการลงทุนอยู่เบื้องหลัง และส่งผู้บริหารคนรุ่นใหม่ “พราวพุธ ลิปตพัลลภ” กับ “พสุ ลิปตพัลลภ” นั่งเก้าอี้กรรมการบริหารบริษัท แต่บริหารแบบลงลึกรายละเอียดทุกขุมขน</p><p> โดยภาพใหญ่เป็นที่ทราบกันดีว่าตระกูลลิปตพัลลภ มีฮับการลงทุน 3 จุดหลัก “กรุงเทพฯ-หัวหิน-ภูเก็ต” โครงสร้างการลงทุนแบ่งเป็น 2 พอร์ตหลักคืออสังหาริมทรัพย์ของครอบครัวทำในนาม “พราวกรุ๊ป” ลงทุนโรงแรมและสวนน้ำ กับอสังหาริมทรัพย์มหาชนในนาม “พราว เรียลเอสเตท” ลงทุนโครงการที่อยู่อาศัยทั้งบ้านแนวราบและคอนโดมิเนียม โฟกัสตลาดระดับลักเซอรี่และอัลตราลักเซอรี่</p><p> จุดโฟกัสอยู่ที่การปลั๊กอินเข้าสู่วงการอสังหาริมทรัพย์ พราวฯ เพิ่งย้ายจากตลาด mai เข้าไปอยู่ใน SET ผลประกอบการยังมีสถานะตัวแดงหรือขาดทุน อย่างไรก็ตาม ภาพธุรกิจที่กำลังเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในปี 2566 บริษัทวางธีมธุรกิจเป็นปีของการเทิร์นอะราวนด์,</p><p> ปี 2567 เป็นปีแห่งการขยับขยายการลงทุน หรือ Expand ผลประกอบการเริ่มเป็นตัวเขียวหรือมีกำไร ขณะที่แผน 2 ปีหน้าในปี 2568-2569 บริษัทมีความพร้อมอย่างเต็มที่ในการประกาศ Business Direction สู่การเติบโตอย่างยั่งยืน</p><p> เริ่มจาก “พราวพุธ ลิปตพัลลภ” กรรมการบริหาร พราว เรียลเอสเตท นำเสนอธีมธุรกิจ All is Well ที่จัดวางความสำคัญว่าเป็นการวางรากฐานการเติบโตในระยะยาวอย่างยั่งยืน ตกผลึกเป็นนิยาม Well-being 8 ข้อ ซึ่งอาจจะเรียกว่าเป็น พราว เวลบีอิ้ง โมเดล ก็ว่าได้ จุดเริ่มต้นอยู่ที่การค้นหาความหมายของคำฮิต 2 คำในยุคปัจจุบัน “เวลเนส” กับ “เวลบีอิ้ง”</p><p> “คำว่าเวลเนสคือเรามีร่างกายที่แข็งแรง แต่เวลาพูดถึงเวลบีอิ้งพบว่ามีหลายองค์ประกอบ เช่น จากเดิมชอบออกกำลังกาย เรามีสุขภาพแข็งแรง แต่ฟิซิคัลของเวลบีอิ้งมีเพิ่มเติมขึ้นมา เช่น ร่างกายที่เราไม่ป่วย ทำยังไงให้เรามีสุขภาวะที่ดีไปเรื่อย ๆ มีเรื่องอาหาร การกินอยู่ การนอนที่ดี ก็เป็นตัวส่งเสริม</p><p> ดังนั้น เวลเนสเรามองเป็นซักเซสของเวลบีอิ้ง เราโฟกัสกับคำว่าเวลบีอิ้ง มองเป็นไลฟ์สไตล์ทำยังไงที่จะส่งเสริมให้องค์ประกอบของชีวิตเรามีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และสุขภาวะที่ดีในระยะยาวแบบยั่งยืนด้วย”</p><p> โดยมี 8 องค์ประกอบ คือ 1.Physical Well-being สุขภาพร่างกายทั่วไป 2.Emotional Well-being สุขภาพใจ มีความสุขในการใช้ชีวิต 3.Spiritual Well-being จิตวิญญาณ ที่ยึดเหนี่ยวในชีวิต ศาสนาหรือเป้าหมายเป้าประสงค์บางอย่างในชีวิต</p><p> 4.Social Well-being การมี Sense of Belonging ในครอบครัวหรือชุมชนของเราเอง 5.Environmental Well-being การอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดีที่ส่งเสริมให้มีสุขภาวะที่ดีต่อไป 6.Financial Well-being เรื่องการเงิน การมั่งคั่ง เราจะมีชีวิตที่ดีได้เราต้องมีทรัพย์สิน</p><p> 7.Occupational Well-being อาชีพการงาน เวลาไปทำงานแล้วเรารู้สึกว่ามีเป้าหมายในชีวิต และ 8.Intellectual Well-being ทำยังไงก็ได้ให้สมองเราได้รับการกระตุ้นตลอดเวลา อาจเป็นความรู้ใหม่ ๆ การได้เริ่มทักษะใหม่ ๆ อาทิ การวาดรูป การร้องเพลง</p><p> ชูมาตรฐานโลกเพื่อการเติบโตยั่งยืน</p><p> เมื่อนิยามเวลบีอิ้งได้แล้ว นำมาสู่การขมวดปมเป็นกลยุทธ์สำคัญผ่าน 5 องค์ประกอบเพื่อชีวิตดีที่ยั่งยืน หรือ PROUD Well-being 5 ข้อ ได้แก่ 1.Well-Crafted Design การออกแบบเพื่อสุขภาวะและความปลอดภัยของทุกชีวิต 2.Well-living Amentities สิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อการอยู่อาศัยและพักผ่อนกายใจ</p><p> 3.Well-Curated Services บริการพิเศษและสิทธิประโยชน์ที่พร้อมดูแลบ้านคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัย จากจุดแข็งของกลุ่มพราวที่มีลักษณะพิเศษเพราะลงทุนในธุรกิจฮอสพิทาลิตี้มาอย่างยาวนาน จึงมีการเพิ่มเป็นสิทธิประโยชน์ให้กับโครงการที่อยู่อาศัยด้วย รูปแบบบริการคอนเซียจของโรงแรม ในบ้านและคอนโดฯ ของพราวฯ ก็มีบริการคอนเซียจดูแลสุขภาพของบ้าน ไม่ว่าจะปัญหาน้ำรั่ว ไฟดับ มีบัตเลอร์ดูแลไปถึงสุขภาพของพื้นที่ส่วนกลาง</p><p> “…บริการพิเศษนี้เป็นจุดแตกต่างของพราว เรียลเอสเตท ที่ทำให้เราแตกต่างจากดีเวลอปเปอร์รายอื่น ๆ เราไม่ได้มองว่ารีเลชันชิปของเราจะเสร็จเมื่อโอนกรรมสิทธิ์ให้ลูกค้า แต่เราต้องการจะดูแลสุขภาพของคนที่อยู่อาศัยไปเรื่อย ๆ”</p><p> 4.Well-Community สังคมที่อบอุ่นและน่าอยู่ผ่านการบริหารโครงการและกิจกรรมมากมาย เพื่อสานต่อการดูแลในระยะยาว และ 5.Well Sustainability การอยู่อาศัยที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ผ่านการออกแบบเพื่อทุกไลฟ์สไตล์ที่ยั่งยืน</p><p> นอกจากนี้ มีการจัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาเพื่อสร้างสรรค์ที่อยู่อาศัยที่ยั่งยืน โดยร่วมมือกับหน่วยงานชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ เพื่อทำความเข้าใจพฤติกรรมลูกค้า เช่น เครือโรงพยาบาลกรุงเทพ และ Spacely AI พัฒนาโครงการที่ได้มาตรฐานระดับโลก ยกระดับมาตรฐานอาคารไทยสู่ระดับโลกด้วย Fitwel มาตรฐานอาคารเพื่อสุขภาวะที่ดี และ LEED (Leadership in Energy and Environmental Design) มาตรฐานอาคารเขียวเพื่อความเป็นผู้นำด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม</p><p> “Fitwell เป็นจุดเริ่มต้นในการออกแบบโครงการ เรามีการส่งสตาฟเทรนนิ่ง เพื่อเข้าใจการสร้างไลฟ์สไตล์ที่ดีให้กับทุกคน อยู่ในทีมโปรเจ็กต์ดีเวลอปเมนต์ โดยโครงการ InterContinental Residences Hua Hin ได้ใบรับรอง Fitwel ประเภท Multifamily Residential เป็นแห่งแรกในไทย และโครงการเวหา หัวหิน ได้ใบรับการ Fitwel Design Certification เช่นกัน ส่วนคอนโดฯใหม่ที่หัวหินอยู่ระหว่างโปรเซส คาดว่าจะได้ใบรับรองต้นปีหน้า”</p><p> 2568 บุก 3 โครงการ 9,200 ล้าน</p><p> แผนธุรกิจปี 2568 เตรียมลงทุน 3 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 9,200 ล้านบาท ได้แก่ 1.บ้านระดับลักเซอรี่ อยู่ในทำเลราชพฤกษ์-แจ้งวัฒนะ หรือโซน ม.หอการค้าไทย มูลค่าโครงการ 4,050 ล้านบาท ตั้งเป้าเปิดพรีเซลไตรมาส 3/68 คาดส่งมอบกรรมสิทธิ์ให้กับลูกค้าในไตรมาส 4/68</p><p> 2.คอนโดมิเนียมไฮไรส์ที่หัวหิน มูลค่าโครงการ 3,000 ล้านบาท วางแผนเปิดพรีเซลในช่วงครึ่งปีหลัง 2568 ตั้งเป้าส่งมอบห้องชุดปี 2571 3.คอนโดฯโลว์ไรส์ ที่ภูเก็ต มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท เตรียมเปิดพรีเซลในช่วงครึ่งปีหลัง 2568 คาดว่าส่งมอบลูกค้าในปี 2570</p><p> ไฮไลต์ของแผนลงทุนปีหน้า มีการส่งสัญญาณ 2 เรื่อง คือ แตกทำเลเข้าไปพัฒนาโครงการเรสซิเดนซ์ในภูเก็ตเป็นครั้งแรกของกลุ่ม และเพิ่มพอร์ตโครงการบ้านแนวราบมากขึ้น</p><p> “ทุกวันนี้ เป้าหมายความสำเร็จทางธุรกิจของพราว เรียลเอสเตท 100% พราวให้คะแนนความสำเร็จ 70% เพราะโรงแรมและสวนน้ำประสบความสำเร็จแล้วที่ภูเก็ตและหัวหิน กำลังเพิ่มการลงทุนในกรุงเทพฯ ซึ่งมีผลตอบรับที่ดีมาก อีก 30% ที่จะต้องทำต่อไปเป็นเรื่องของแบรนด์ยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก</p><p> เพราะเราโฟกัสตลาดลักเซอรี่ ซึ่งถือเป็นนิชมาร์เก็ต แต่ก็มั่นใจว่าในอนาคตที่เรายังคงมีแผนลงทุนอย่างต่อเนื่องทุกปี คนจะรู้จักแบรนด์เรามากขึ้น ภาพจำที่อยากให้ผู้บริโภคจดจำ พราวฯ ตั้งใจจะสื่อสารด้วยคอนเซ็ปต์ All is Well ที่พราวฯมั่นใจมาก ๆ ว่าเป็นจุดสร้างความแตกต่างจากดีเวลอปเปอร์รายอื่น ๆ”</p><p> ปีหน้าเป้ารายได้โตก้าวกระโดด 6 เท่า</p><p> ถัดมา “พสุ ลิปตพัลลภ” กรรมการบริหาร พราว เรียลเอสเตท กล่าวเสริมว่า แผนธุรกิจ 6 ปี (2566-2571) ไม่นับปี 2565 ที่ตอกเสาเข็มต้นแรกโครงการอินเตอร์คอนฯ เรสซิเดนซ์ หัวหิน ในปี 2566 มียอดรายได้ 1,534 ล้านบาท, ปี 2567 มีเหตุการณ์สำคัญในการซื้อหุ้นคอนโดฯ นิว ครอส คูคตสเตชั่น จาก บมจ.โนเบิล ดีเวลลอปเม้นท์ และยอดรายได้จากบ้านหรูแบรนด์ วี อารีย์ คาดการณ์ปีนี้จะจบยอดรายได้ 2,555 ล้านบาท</p><p> ในขณะที่ดอกผลของการลงทุนจะเบ่งบานเต็มที่ในปี 2568 ที่คาดการณ์รายได้รวม 9,606 ล้านบาท มาจากยอดรายได้คอนโดฯ นิว ดิสตริก พระราม 9 และเริ่มคอนโดฯเวหา หัวหิน เท่ากับผลประกอบการจะสร้างการเติบโตด้านรายได้สูงถึง 6 เท่าภายในเวลา 3 ปี</p><p> ถัดมาปี 2569 วางแผนมียอดรับรู้รายได้จากคอนโดฯรมย์ คอนแวนต์ และคอนโดฯโลว์ไรส์ในภูเก็ต คาบเกี่ยวกับยอดรายได้บ้านลักเซอรี่โซนแจ้งวัฒนะ-ราชพฤกษ์ และปี 2570-2571 เป็นปีที่ยังเอ็นจอยยอดรายได้ต่อเนื่องจากคอนโดฯไฮไรส์ในหัวหิน โดยตั้งงบฯจัดซื้อแลนด์แบงก์เพื่อพัฒนาโครงการ 3,000 ล้านบาท</p><p> “ไฮไลต์งบการเงิน 9 เดือนแรก (มกราคม-กันยายน 2567) ดีขึ้นเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา หลัก ๆ รายได้มาจากคอนโดฯนิว ครอส คูคตสเตชั่น บริษัทมีแบ็กล็อกหรือยอดขายรอโอน 10,899 ล้านบาท โดยการลงทุนปีหน้า 3 โครงการจะเริ่มต้นรับรู้รายได้ทันทีจากบ้านลักเซอรี่ 1 โครงการ ซึ่งการวางตำแหน่งสินค้าเราวางตำแหน่ง Best in Class จึงมั่นใจว่าจะดีลิเวอร์เพอร์ฟอร์แมนซ์ได้ตามที่ตั้งเป้าไว้”</p><p> เป้าหมายมีไว้พุ่งชนของ “พสุ” ยังรวมถึงการเดินหน้าสู่เป้ารายได้ที่ต้องการสร้างการเติบโต 6 เท่า แตะเกือบหมื่นล้านบาทในปีหน้า ด้วยกลยุทธ์เรียบง่ายแต่ประสบความสำเร็จได้จริง</p><p> “วันนี้พอร์ตโฟลิโอของพราวฯ มีความน่าสนใจ เราพยายามปักธงเมืองท่องเที่ยวไทยที่เป็น Engine Growth การเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ ในแง่จีดีพีปีนี้คาดว่าอยู่ที่ 2.9% เบสต์เคสปีหน้าคาดการณ์ที่ 3% ขึ้นไป ในขณะที่เมืองท่องเที่ยวจะมีอัตราเติบโตเศรษฐกิจสูงกว่าภาพรวมประเทศ คาดการณ์จีพีพี (ขนาดเศรษฐกิจจังหวัด) โตได้ถึง 10% ขึ้นไป</p><p> ประเมินจากการใช้จ่ายต่อหัวของนักท่องเที่ยว ซึ่งพราวฯนำเสนอคอนเซ็ปต์ พราว เวลบีอิ้ง ก็จะยิ่งสร้างการเติบโตได้มากขึ้นไปอีก เรามีการบริหารความเสี่ยงการลงทุนไว้ระดับหนึ่ง เช่น ทำเลหัวหิน ซึ่งเราทำได้ดีอยู่แล้ว สามารถแคปเจอร์ตลาดตรงนี้ได้ ก็พยายามบิลด์การลงทุนบนฐานซักเซสเดิมที่ได้ทำมา”</p><p> เป้าหมายมีไว้พุ่งชน-ติดทำเนียบท็อป 10</p><p> น่าสนใจว่าผู้บริหารคนรุ่นใหม่ตระกูลดัง คาดหวังธุรกิจอสังหาฯ อยากให้ไปไกลแค่ไหน มุมมองของ “พสุ” ระบุมีมุมมองหนึ่งที่น่าสนใจ มีการตั้งข้อสังเกตว่าหุ้นอสังหาฯในเมืองไทย หลาย ๆ ตัวจ่ายปันผลได้ดีมาก ๆ คนนิยมถือยาว กลายเป็นประเพณีหุ้นอสังหาฯ คือหุ้นที่จ่ายปันผล</p><p> “…ผมรู้สึกว่าบางทีเมืองไทยถ้าไม่มีอะไรมาเปลี่ยน เช่น กฎหมายทรัพย์อิงสิทธิ์ การที่จะมาลงทุนในหุ้นอสังหาฯ แล้วคาดหวังว่าราคาหุ้นจะขึ้น ก็ยังได้อยู่ ความน่าสนใจหุ้นอสังหาฯ คือปันผลให้ได้ดี เราทำอสังหาฯ เราจะแฮปปี้กับมันมากถ้าเราสามารถจ่ายปันผลได้เรื่อย ๆ ทุกปี ๆ ถ้าวันหนึ่งยอดขายไปถึง 20,000-30,000-40,000 ล้านบาท อสังหาฯก็จะมีปันผลไปได้เรื่อย ๆ ผู้ถือหุ้นก็น่าจะแฮปปี้”</p><p> ขณะเดียวกัน อนาคตระยะยาว ๆ มองเทรนด์ ESG เรื่องความยั่งยืน คาร์บอนเครดิต การทำธุรกิจต้องมองเป็นอีโคซิสเต็มแล้วจะสร้างโอกาสทางธุรกิจได้อีกมหาศาล เช่น การเป็นมาร์เก็ตเพลซในการเทรดคาร์บอนเครดิต จริง ๆ แล้วมองในภาพประเทศไทย ซึ่งมีพื้นที่ปลูกข้าวมหึมาถึง 60 ล้านไร่ รัฐบาลน่าจะมีนโยบายสนับสนุนให้ไทยเป็นฮับข้าวโลว์คาร์บอนของโลก เพิ่มโอกาสเทรดคาร์บอนเครดิตในป่ามาสู่นาข้าว เป็นต้น</p><p> อีกคำถามถึงประสบการณ์ดีเวลอปเปอร์ที่บริหารธุรกิจครอบครัว 14-15 ปี ถ้าจะต้องอุดรูรั่วธุรกิจ 3 เรื่องแรกมีอะไรบ้าง คำตอบของ “พราวพุธ” พรั่งพรูอย่างมั่นใจว่า การทำอสังหาฯก็มีอยู่ 3 เรื่องหลักที่ต้องทำแบบเข้มงวด เรื่องของการเลือกเฟ้นทำเล บริหารคอนสตรักชั่นคอสต์ และด้านมาร์เก็ตติ้ง</p><p> แต่สำหรับพราว เรียลเอสเตท มีอีกขาที่สำคัญคือเรื่องของอาฟเตอร์เซลเซอร์วิส เพราะเป็นรากฐานของการเติบโตที่ยั่งยืน เพราะมองเป็นบรรทัดฐานในระยะยาว ทำแล้วมั่นใจว่าจะยั่งยืน เหมือนโมเดลที่พยายามจะทำ ไม่เหมือนอาฟเตอร์เซลเซอร์วิสทั่วไป แต่พราวฯมีบริการโรงแรมเป็นสิทธิประโยชน์ให้กับลูกค้าโครงการในเครือที่มีให้ตลอดไปเลย</p><p> จบด้วยความคาดหวังที่อยากเห็นพราวฯ เดินไปไกลแค่ไหนบนถนนอสังหาฯ คำตอบที่เป็นประโยคบอกเล่าก็คือ สิ่งที่ภูมิใจ คอนโดฯ อินเตอร์คอนฯ หัวหิน ลูกค้าบางคนซื้อเป็นบ้านหลังที่ 3 และมีอยู่ 1 แฟมิลี่เป็นครอบครัวใหญ่ ที่คุณปู่คุณย่าซื้อเบ็ดเสร็จ 9 ยูนิต</p><p> ไม่ได้ซื้อเพื่อปล่อยเช่า แต่ซื้อเพื่อพักอาศัยจริง ๆ และซื้อเก็บเป็นมรดกให้ลูกหลาน ถามว่าลูกหลานอายุเท่าไหร่ คำตอบคือ 10 ขวบเท่านั้น เป็นการคอนเฟิร์มว่าโมเดลธุรกิจทั้งหมดที่อธิบายด้วยทฤษฎีและปฏิบัติจริง สามารถจับต้องได้และมีลูกค้าเห็นคุณค่า และให้คุณค่ากับแบรนด์พราวฯ</p><p> “…อยากให้พราว เรียลเอสเตท เป็นแบรนด์ประจำบ้าน เรายังไม่ใช่แสนสิริ ถามว่าเป้าหมายเราคืออะไร แน่นอนอยากให้ชื่อแบรนด์ติดท็อป 10 ในไทย (ประกาศเป้าหมายนี้ตั้งแต่วันแรกที่เปิดตัวบริษัท) ตอนนี้โครงการเรายังไม่เยอะ แต่ต่อไปโครงการจะเริ่มเยอะขึ้น คนก็จะรู้จักเราเอง” คำกล่าวของพราวพุธ ลิปตพัลลภ</p><p style="font-size:13px;">12/12/2567  ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ ( 12 ธันวาคม 2567 )</p>