จุ่มแซ่บฮัท คืนชีพ! ปักธงสาขาคอนเซ็ปต์ใหม่ย่านประดิพัทธ์

เผยโฉมร้าน พร้อมส่องเมนู-ราคา จุ่มแซ่บฮัท อาหารอีสานสไตล์จิ้มจุ่ม คู่หูบาร์บีคิวพลาซ่า ที่คืนชีพกลับมาอีกครั้งพร้อมคอนเซ็ปต์ใหม่ ในย่านประดิพัทธ์ หลังปิดทุกสาขาไปเมื่อปี 2565 วันที่ 11 สิงหาคม 2567 จุ่มแซ่บฮัท ร้านอาหารอีสาน ซึ่งเคยเป็นเหมือนคู่หูของร้านบาร์บีคิวพลาซ่า กลับมาเปิดบริการอีกครั้งให้แฟน ๆ หายคิดถึง ในรูปแบบสแตนอโลนด์ พร้อมคอนเซ็ปต์ใหม่ที่มากกว่าแค่ร้านอาหารจิ้มจุ่มแบบเดิม ๆ โดยเปิดให้บริการแบบซอฟลอนซ์ตั้งแต่วันที่ 6 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา โดยจุ่มแซ่บฮัท สาขาใหม่นี้ตั้งอยู่ในซอยประดิพัทธ์ 15 พร้อมคอนเซ็ปต์ใหม่ทั้งรูปแบบร้านสแตนด์อะโลนอาคารชั้นเดียว พร้อมที่นั่งทานอาหารทั้งในร้านและนอกร้าน ส่วนเวลาเปิดบริการนั้นลากยาวตั้งแต่ 11.00 – 24.00 น. รวมถึงนอกจากอาหารคาว-หวานแล้ว ยังมีเมนูเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หลากหลาย รวมถึงดนตรีสด เรียกว่ารองรับตั้งแต่มื้อกลางวัน ไปจนถึงสังสรรค์ยามค่ำคืน ภายนอกร้านตกแต่งสไตล์เรียบง่ายและร่มรื่น การตกแต่งภายในร้านเน้นบรรยากาศอบอุ่นสบาย ๆ แนวเอิร์ธโทน เน้นสีน้ำตาล ดำ ขาว ซึ่งคุมโทนไปจนถึงแอร์บนเพดาน พร้อมเฟอร์นิเจอร์ไม้ และต้นไม้เขตร้อนที่ประดับตามจุดต่าง ๆ ที่นั่งทานอาหารมีหลากหลายรูปแบบทั้งโต๊ะกลม โต๊ะยาว เก้าอี้เดี่ยว และโซฟา ให้เลือกนั่งได้ตามความชอบและจำนวนคน บรรยากาศภายในร้าน ด้านจัดเป็นสวนหย่อม ซึ่งสามารถมองเห็นได้ผ่านผนักกระจกของร้าน พร้อมกับมีที่นั่งทานอาหารอีกจำนวนหนึ่ง กำแพงและเพดานกระจกด้านหลังเพิ่มบรรยากาศโปร่ง-ร่มรื่น ครบเครื่องเมนูอีสาน ตื่ม ตำ ลาบ ยำ ของหวาน ฯลฯ ด้านเมนูอาหารมีเพียบพร้อมทั้งคาว หวานและเครื่องดื่ม เริ่มจากเมนูเด็ดอย่าง ชุดแจ่วฮ้อน ที่มีให้เลือกทั้ง แจ่วฮ้อนหมู แจ่วฮ้อนเนื้อ และชุดรวมที่มีทั้งหมู เนื้อและกุ้ง โดยแต่ละชุดจะมีออฟชั่นครบครันตั้งแต่ เนื้อวัวหรือหมูส่วนต่าง ๆ เครื่องในวัวหรือหมู และผัก สนนราคา 300 บาท 360 บาทและ 400 บาท ตามลำดับ น้ำซุปมีออฟชั่นให้เลือก 3 ชนิด คือ ซุปจุ่มแซ่บฮัท ซุปแจ่วฮ้อนหมู และซุปแจ่วฮ้อนเนื้อ ส่วนน้ำจิ้มมี 3 ชนิด คือ น้ำจิ้มจุ่มแซ่บฮัท น้ำจิ้มแจ่วฮ้อน และน้ำจิ้มขม ซึ่งจะมาพร้อมอาหาร น้ำจิ้มทั้ง 3 ชนิด และยังมี ตื่ม ซึ่งเป็นภาษาอีสาน แปลว่า เพิ่ม หรือก็คือเมนูอะลาคาร์ท ให้สั่งเพิ่มได้ไม่ว่าจะเป็นหมู และเครื่องในหมูราคา 60 บาท ส่วนเนื้อวัว และเครื่องใน ราคา 70-90 บาท กุ้งสด ราคา 100 บาท ไปจนถึงกลุ่มผักต่าง ๆ ราคา 20-60 บาท รวมถึงไข่ไก่ ราคา 15 บาท และวุ้นเส้นญี่ปุ่น ราคา 50 บาท อาหารจานเดียวก็มีให้เลือกหลากหลายทั้ง เมนูย่าง อาทิ ไส้อ่อน นมหมู ลิ้นวัว ฯลฯ ราคา 90 – 300 บาท มีไฮไลท์เป็น ปลาดุกไร้ก้างขวางคอย่าง ราคา 120 บาท และเนื้อพิคานย่าย่างพรีเมี่ยม ราคา 300 บาท ส่วนเมนูทอด อาทิ หมูแดดเดียวทอด ปลาส้มยโสทอด เฟรนฟรายส์มะเขือยาว ฯลฯ ราคา 50 – 160 บาท มีไฮไลท์เป็น ปลากระป๋องทอดจังโก้ ราคา 120 บาท ด้านเมนูตำบักหุ่ง หรือส้มตำ ราคา 80-160 บาท ซึ่งสามารถเลือกท้อปปิ้งเพิ่มได้หลากหลาย เช่น แจ่วปลาร้า ส้มผัก ไปจนถึงหมูสามชั้นทอด สนนราคา 15-60 บาท มีเมนูไฮไลท์เป็น ตำดอกหญ้าในป่าปูน ราคา 120 บาท สำหรับเมนูลาบ ย้ำ และน้ำตก เช่น ยำสามชั้นทอดน้ำปลาร้า กุ้งแก้วดองน้ำปลากวน ฯลฯ ราคา 90-160 บาท โดยมีเมนูไฮไลท์คือ ยำน่องกรอบ ราคา 150 บาท และลาบเป็ด จุ่มแซ่บฮัท ราคา 100 บาท ในส่วนของเมนูข้าวและเส้น นอกจากข้าวเหนียว ข้าวสวย แล้วยังมีเมนูอย่าง เส้นหมี่กากหมู ข้าวผัดปลาร้าคอหมูย่าง และอื่น ๆ ราคา 15-150 บาท ต่อด้วยของหวานและเครื่องดื่มมีตั้งแต่น้ำเปล่า น้ำอัดลม และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อาทิ สุรา เบียร์ ไวน์ สละลอยแก้ว พุ้ดดิ้งนมสดมะพร้าวอ่อน ฯลฯ ราคา 25-750 บาท โดยมีของหวานไฮไลท์ คือ ไอศกรีมมะพร้าวน้ำหอม ราคา 50 บาท ซึ่งเป็นไอศกรีมสไตล์ซอร์เบต์ (Sorbet) จากน้ำมะพร้าว โดยไม่ผสมกะทิ สำหรับการเดินทางมายังร้านจุ่มแซ่บฮัท สามารถสังเกตุป้ายร้านบริเวณปากซอยประดิพัทธ์ 15 เมื่อเข้าซอยมาประมาณ 200 เมตร จะเห็นร้านอยู่ทางด้านขวา โดยสามารถจอดรถได้ทั้งด้านหน้าร้าน และด้านข้าง ทั้งนี้สำหรับผู้ที่สนใจใช้บริการ พนักงานของร้านระบุว่า เนื่องจากขณะนี้อยู่ในช่วงซอฟลอนซ์ แนะนำให้โทรสอบถาม-จองที่นั่งล่วงหน้าที่เบอร์ 065-238-9025 สำหรับความเป็นมาของ จุ่มแซ่บฮัท นั้น นับเป็นร้านพี่น้องกับ บาร์บีคิวพลาซ่า เนื่องจากไม่เพียงอยู่ภายใต้การบริหารของ ฟู้ดแพชชั่น แต่ยังใช้พื้นที่ร้านร่วมกันด้วย โดยจุ่มแซ่บฮัท เป็นร้านอาหารต้ม-ลวก สไตล์อีสาน ตามสโลแกน “จุ่มแซ่บฮัท อีสานขึ้นห้าง แจ่วฮ้อนขึ้นชื่อ” จุ่มแซ่บฮัท เปิดบริการสาขาแรกที่เดอะมอลล์ บางกะปิ เมื่อ พ.ศ. 2536 และขยายสาขาต่อเนื่องควบคู่กับ บาร์บีคิวพลาซ่า ก่อนจะเพิ่มเมนูบุฟเฟ่ต์ และโมเดลร้าน จุ่มแซ่บฮัท บุฟเฟ่ต์ จำนวน 3 สาขา ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา พระราม 3, ศูนย์การค้าเอสพลานาด รัชดา และ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เซ็นเตอร์ พัทยา อย่างไรก็ตามต่อมา ร้านจุ่มแซ่บฮัททยอยลดสาขาลง และปิดให้บริการทุกสาขาตั้งแต่วันที่ 17 มี.ค. 2565 เป็นต้นมา ส่งเดลิเวอรี่ทดสอบดีมานด์ ทั้งนี้เมื่อปลายปี 2566 ที่ผ่านมา ฟู้ดแพชชั่น ฟื้นคืนชีพแบรนด์ จุ่มแซ่บฮัท ขึ้นมาครั้งหนึ่งแล้วในรูปแบบเดลิเวอรี่ สำหรับพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยมีเมนูทั้งหมู เนื้อและทะเล ราคาเริ่มต้น 349 บาท วางจำหน่ายตั้งแต่ 29 พฤศจิกายน 2566 – 31 มีนาคม 2567 โดย รัฐ ตระกูลไทย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการตลาด บริษัท ฟู้ดแพชชั่น จำกัด เคยอธิบายเหตุผลการนำ จุ่มแซ่บฮัท กลับมาในแบบเดลิเวอรี่ว่า ตลาดอาหารประเภทต้มเป็นอีกตลาดที่มีศักยภาพ จากกระแสความสนใจของผู้บริโภคจำนวนมาก เช่นเดียวตัวแบรนด์จุ่มแซลฮัท สะท้อนจากการมีลูกค้าแสดงความต้องการผ่านหน้าเพจของบริษัทให้นำแบรนด์จุ่มแซ่บฮัทกลับมาให้บริการอีกครั้งอย่างต่อเนื่อง ในรูปแบบเดลิเวอรี่นี้ ยังคงเอกลักษณ์และรสชาติของน้ำซุปแซ่บสไตล์ไทยที่หอมและแซ่บด้วยเครื่องสมุนไพร อย่าง พริก หอมแดง ตะไคร้ ใบมะกรูด รวมถึงน้ำจิ้มแจ่วสูตรเฉพาะที่หอมข้าวคั่วและใส่หอมเจียวกรอบ “จากแนวโน้มการเติบโตของตลาดประเภทต้มนี้บวกกับความชื่นชอบในจุ่มแซ่บฮัทของลูกค้า จะสามารถช่วยเพิ่มสัดส่วนรายได้จากการจำหน่ายเดลิเวอรี่ของบริษัทได้ถึง 20%” ทั้งนี้ต้องจับตาดูกันว่า ความเคลื่อนไหวล่าสุดของฟู้ดแพชชั่นในครั้งนี้ จะส่งผลอย่างไรกับวงการอาหารประเภทต้ม ซึ่งเป็นหนึ่งในเซกเมนต์ที่มีผู้เล่นมากหน้าหลายตาและแข่งขันกันอย่างดุเดือดมาตลอด รวมถึงหนึ่งในยักษ์ร้านอาหารจะต่อยอด จุ่มแซ่บฮัท คอนเซ็ปต์ใหม่อย่างไร11/8/2567 ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ ( 11 สิงหาคม 2567 )