“ไมเนอร์โฮเทลส์” เปิดแผนรุก 3 ปี ขยายโรงแรมทะลุ 850 แห่ง ขึ้น No.1 ของโลก

<p></p><p>“ไมเนอร์ โฮเทลส์” ประกาศแผนขยายธุรกิจยิ่งใหญ่ เตรียมเปิดโรงแรมใหม่กว่า 300 แห่งทั่วโลกในปี’68 ตั้งเป้าขยายพอร์ตโฟลิโอ ทั้งในกลุ่มโรงแรมระดับลักเซอรี่-ที่พักอาศัยในรูปแบบเรซิเดนซ์ทะลุ 850 แห่งภายในปี 2570 ย้ำแบรนด์ที่มีเอกลักษณ์ คุณภาพสูง พร้อมขึ้นแท่นเบอร์ 1 เครือโรงแรมที่ใหญ่ที่สุดในโลก</p><p> นายดิลิป ราชากาเรีย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไมเนอร์ โฮเทลส์ เปิดเผยว่า ไมเนอร์ โฮเทลส์ (Minor Hotels) ได้ประกาศแผนการขยายธุรกิจอย่างหนักในช่วง 3 ปีข้างหน้า โดยตั้งเป้าเปิดโรงแรมใหม่กว่า 300 แห่งทั่วโลกในปี 2568 ซึ่งจะผลักดันจำนวนโรงแรมในเครือให้ทะลุ 850 แห่งภายในปี 2570 เพื่อตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นในการเติบโตของบริษัทที่ตั้งเป้าเป็นหนึ่งในเครือโรงแรมที่ใหญ่ที่สุดในโลก</p><p> นายดิลิปกล่าวว่า ปัจจุบันไมเนอร์ โฮเทลส์ มีโรงแรมและรีสอร์ตในพอร์ตกว่า 560 แห่งทั่วโลก คิดเป็นห้องพักกว่า 81,000 ห้อง และจากแผนการขยายธุรกิจในอนาคต ไมเนอร์ โฮเทลส์ จะมีโรงแรมใหม่มากกว่า 285 แห่งในอีก 3 ปีข้างหน้า ซึ่งจะเพิ่มห้องพักอีกกว่า 47,000 ห้อง ส่งผลให้พอร์ตโฟลิโอของเครือโรงแรมมีการกระจายตัวทั่วโลกมากยิ่งขึ้น</p><p> นอกจากนี้ บริษัทจะมุ่งเจาะตลาดในภูมิภาคต่าง ๆ อย่างครอบคลุม โดยจะเพิ่มโรงแรมในเอเชียมากกว่า 100 แห่ง ตะวันออกกลางและแอฟริกา 60 แห่ง รวมทั้งในออสเตรเลียและนิวซีแลนด์กว่า 40 แห่ง ซึ่งจะช่วยเสริมความสมดุลให้กับพอร์ตโฟลิโอของบริษัททั้งในด้านภูมิศาสตร์และประเภทของโรงแรม “ไมเนอร์ โฮเทลส์ ยังให้ความสำคัญกับการขยายธุรกิจในตลาดสำคัญ</p><p> โดยเฉพาะในอเมริกาเหนือและเอเชียเหนือ และในตลาดที่มีศักยภาพสูง เช่น โมร็อกโก อียิปต์ และตุรกี รวมถึงการขยายธุรกิจในตลาดอินเดีย ล่าสุดไมเนอร์ โฮเทลส์ ได้เปิดตัวโรงแรมอนันตรา จิวเวล บาห์ จัยปูร์ หรือ Anantara Jewel Bagh Jaipur Hotel ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในตลาดอินเดีย” นายดิลิปกล่าว</p><p> โฟกัสกลุ่มแบรนด์ลักเซอรี่</p><p> นายดิลิปกล่าวด้วยว่า ขณะเดียวกันไมเนอร์ โฮเทลส์ ยังคงมุ่งมั่นในการขยายตลาดในกลุ่มโรงแรมหรูในระดับลักเซอรี่และพรีเมี่ยม โดย 1 ใน 3 ของโรงแรมใหม่ที่เปิดในอีก 3 ปีข้างหน้าจะเป็นโรงแรมในกลุ่มแบรนด์ลักเซอรี่ เช่น อนันตรา (Anantara), ทิโวลี (Tivoli) และเอเลวาน่า คอลเลคชั่น (Elewana Collection)</p><p> ขณะที่อีก 1 ใน 3 จะเป็นโรงแรมระดับพรีเมี่ยม เช่น เอ็นเอช คอลเลคชั่น (NH Collection), อวานี (Avani) และนาว (nhow) รวมทั้งมีแผนการปรับปรุงและยกระดับมาตรฐานโรงแรมในเครือ ที่เปิดให้บริการมาเป็นเวลานานแล้ว เช่น โรงแรมอนันตรา หัวหิน รีสอร์ท ซึ่งเป็นโรงแรมอนันตราแห่งแรกในประเทศไทย ซึ่งมีแผนจะปรับปรุงครั้งใหญ่เพื่อให้ทันสมัยและตอบสนองความต้องการของลูกค้า</p><p> เตรียมแผนเปิด 2 แบรนด์ใหม่</p><p> ขณะเดียวกันไมเนอร์ โฮเทลส์ ยังได้ปรับโครงสร้างแบรนด์เพื่อรองรับกลยุทธ์ใหม่ที่มุ่งขยายพอร์ตโฟลิโอทั้งในกลุ่มธุรกิจโรงแรมและกลุ่มธุรกิจที่พักอาศัย (ลักเซอรี่ เรซิเดนซ์) โดยในปี 2568 นี้มีแผนเปิดตัวแบรนด์ใหม่ 2 แบรนด์ ซึ่งจะเน้นการปรับปรุงและดัดแปลงโครงการเดิมที่มีอยู่แล้ว และโรงแรมใหม่ ๆ เพื่อช่วยขยายโอกาสให้กับผู้ประกอบการที่มองหาแบรนด์ที่มีเอกลักษณ์</p><p> รวมถึงมุ่งเน้นในธุรกิจที่พักอาศัยในรูปแบบเรซิเดนซ์ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของการเติบโตในอนาคต โดยได้เริ่มต้นการพัฒนาโครงการที่พักอาศัยแบบเรซิเดนซ์ในหลายประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะในภูมิภาคตะวันออกกลางและยุโรป</p><p> อาทิ โครงการลายัน เรสซิเดนเซส บาย อนันตรา (Layan Residences by Anantara) ในภูเก็ต ที่ได้รับการยอมรับจากตลาดตั้งแต่เปิดตัว รวมถึงเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีการเปิดตัวโรงแรมทิโวลี คอปเก ปอร์โต ไกอา (Tivoli Kopke Porto Gaia Hotel) ที่ประเทศโปรตุเกส ซึ่งตั้งอยู่ในพอร์ตไวน์เก่าแก่บนเนินเขาไกอา</p><p> เปิดโรงแรมใหม่ทุกไตรมาส</p><p> นายดิลิปกล่าวอีกว่า สำหรับแผนโครงการใหม่ทั่วโลกของไมเนอร์ โฮเทลส์ ในปี 2568 อาทิ ในช่วงไตรมาส 2 มีแผนเปิดโรงแรมนาว โรม (nhow Rome) โรงแรมแห่งที่ 10 ภายใต้แบรนด์นาวในยุโรป ไตรมาส 3 มีแผนเปิดอวานีพลัส บาร์บารอนส์ เซเชลส์ รีสอร์ท (Avani+ Barbarons Seychelles Resort) รีสอร์ตเรือธงของแบรนด์อวานีในมหาสมุทรอินเดีย โรงแรมอนันตรา คาฟิว ริเวอร์ แซมเบีย เต็นท์ แคมป์ (Anantara Kafue River Zambia Tented Camp) ที่พักแบบเต็นท์แคมป์สุดหรูในแอฟริกาซาฟารี</p><p> และในไตรมาส 4 มีแผนเปิดโรงแรมเอ็นเอช คอลเลคชั่น มัลดีฟส์ รีธิ รีสอร์ท (NH Collection Maldives Reethi Resort) รีสอร์ตชื่อดังในมัลดีฟส์ที่จะกลับมาเปิดให้บริการหลังการปรับปรุง</p><p> ชูกลยุทธ์ “Asset-right”</p><p> นายดิลิปกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า การขยายธุรกิจของไมเนอร์ โฮเทลส์ ไม่เพียงแค่การเพิ่มพอร์ตโพลิโอเท่านั้น แต่ยังมีแนวทางที่มุ่งเน้นการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยมีกลยุทธ์ “Asset-right” ที่จะช่วยให้บริษัทสามารถกระจายความเสี่ยงและสร้างสมดุลระหว่างการเป็นเจ้าของ เช่า บริหารจัดการ และแฟรนไชส์</p><p> โดยไมเนอร์ โฮเทลส์ ตั้งเป้าที่จะปรับสัดส่วนของพอร์ตที่เป็นเจ้าของและเช่าให้เหลือ 50 : 50 ภายในปี 2570 จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนพอร์ตธุรกิจที่เป็นเจ้าของประมาณ 70% และเช่าประมาณ 30%</p><p> “เรายังคงมุ่งมั่นขับเคลื่อนการเติบโตเชิงกลยุทธ์ในภูมิภาคต่าง ๆ และมุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์การบริการรูปแบบใหม่ ๆ ซึ่งจะสร้างมูลค่าให้กับเจ้าของโรงแรมและพันธมิตรของเรา รวมถึงการต่อยอดความเชี่ยวชาญด้านการบริการระดับลักเซอรี่ การพัฒนาโครงสร้างแบรนด์ กลยุทธ์การบริหารสินทรัพย์ Asset Right และการขยายโครงการที่พักอาศัยแบบเรซิเดนซ์ ถือเป็นแกนหลักในการขับเคลื่อนแผนธุรกิจเชิงรุกที่จะพาเราก้าวสู่ความสำเร็จในอนาคตอันใกล้” นายดิลิปกล่าวและว่า</p><p> นอกจากนี้ บริษัท ยังเน้นการพัฒนาแบรนด์ที่มีเอกลักษณ์ และคุณภาพสูง พร้อมทั้งมอบประสบการณ์การเข้าพักที่ไม่เหมือนใครให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง โดยหวังว่าจะช่วยผลักดันให้ไมเนอร์ โฮเทลส์ ก้าวขึ้นสู่ความสำเร็จและเป็นผู้นำในวงการธุรกิจโรงแรมระดับโลกในอนาคตอันใกล้</p><p style="font-size:13px;">8/3/2568  ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ ( 8 มีนาคม 2568 )</p>