แสนสิริเผยปี’67 ครองแชมป์รายได้ 39,205 ล้าน ผลงานแกร่งท่ามกลางภาวะแข่งขันสูง

<p></p><p>แสนสิริย้ำรายได้เติบโตต่อเนื่อง ฐานะการเงินแข็งแกร่ง มุ่งสร้างผลตอบแทนสูงสุดกับผู้ถือหุ้น บอร์ดอนุมัติจ่ายปันผลครึ่งปีหลังที่ 0.08 บาทต่อหุ้น รวมทั้งปีจ่าย 0.15 บาทต่อหุ้น คิดเป็น Dividend Yield 9% นับเป็นหนึ่งในบริษัทอสังหาฯ ชั้นนำที่จ่ายปันผลสูงต่อเนื่องตลอดหลายปีที่ผ่านมา รุกต่อปี 68 เตรียมเปิด 29 โครงการใหม่ มูลค่า 52,000 ล้านบาท พร้อม จ่อคิวเปิดตัว “นาราสิริ บางนา กม.10” มูลค่าโครงการ 4,100 ล้านบาท หนึ่งในไฮไลต์ของ SANSIRI 10 EAST ลักเซอรีคอมมูนิตี้แห่งใหม่ย่านบางนา ใจกลางพื้นที่เศรษฐกิจฝั่งตะวันออก</p><p> นายวิชาญ วิริยะภูษิต ประธานผู้บริหารสายงานการเงิน บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI บริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของไทย เปิดเผยว่า แสนสิริสามารถสร้างผลการดำเนินงานในปี 2567 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และหลายส่วนเป็นไปตามแผนงานที่วางไว้ โดยมีรายได้รวมที่ 39,205 ล้านบาท เติบโตขึ้นเล็กน้อยจากปีก่อนหน้า</p><p> ด้านยอดขายรวมเติบโตขึ้น 2% จาก 49,000 ล้านบาท เป็น 50,000 ล้านบาท (63% มาจากโครงการแนวราบ, 37% มาจากคอนโดมิเนียม) ขณะที่ยอดโอนเติบโตขึ้น 13% จาก 38,800 ล้านบาท เป็น 43,700 ล้านบาท (66% มาจากโครงการแนวราบ, 34% มาจากคอนโดมิเนียม)</p><p> ความสำเร็จดังกล่าวมาจากกลยุทธ์การปรับพอร์ตโฟลิโอเพื่อเจาะกลุ่มความต้องการที่อยู่อาศัยระดับพรีเมี่ยม-ลักซ์ชัวรี รวมถึงการรุก Strategic Locations เมืองท่องเที่ยวใหญ่ที่มีศักยภาพ โดยสัดส่วนยอดขายและยอดโอนของบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮมเติบโตในทิศทางเดียวกัน ขณะที่ยอดขายคอนโดมิเนียมปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย สะท้อนถึงความต้องการคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดในบางทำเลที่ปรับตัวดีขึ้น จากแรงหนุนจากความต้องการของชาวต่างชาติและความต้องการอยู่อาศัยใกล้แนวรถไฟฟ้าหรือใกล้สถานศึกษาของคนไทย”</p><p> ที่สำคัญ แสนสิริยังรักษาระดับกำไรสุทธิได้ถึง 5,253 ล้านบาท ท่ามกลางภาวะการแข่งขันสูง สะท้อนให้เห็นว่าแสนสิริ สามารถรักษาระดับผลประกอบการให้เติบโตได้อย่างมีเสถียรภาพทั้งในด้านรายได้ ยอดขาย และยอดโอน สวนกระแสสภาวะเศรษฐกิจและสถานการณ์ตลาดอสังหาฯ ที่ทยอยฟื้นตัว แสดงถึงการมีกลยุทธ์ที่ดีในการปรับตัวภายใต้สถานการณ์ต่างๆ</p><p> รวมถึงฐานะการเงินที่แข็งแกร่งที่ได้รับความเชื่อมั่นสูงจากนักลงทุน จากการเสนอขายหุ้นกู้ในทุกชุด ที่ได้รับการตอบรับที่ดีเกินคาด ยอดจองล้นและสามารถปิดการจองซื้อหุ้นกู้ในทุกครั้งได้อย่างรวดเร็ว สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อความแข็งแกร่งของแบรนด์แสนสิริได้เป็นอย่างดี</p><p> แสนสิริยังมุ่งสร้างผลตอบแทนสูงสุดกับผู้ถือหุ้น จากผลกำไรที่เติบโตต่อเนื่อง ล่าสุด ที่ประชุมคณะกรรมการ บริษัท มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลครึ่งปีหลังที่ 0.08 บาทต่อหุ้น (กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับปันผลในวันที่ 17 มี.ค. และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 20 พ.ค.) หากรวมเงินปันผลครึ่งปีแรกที่จ่ายระหว่างกาลไปแล้วที่ 0.07 บาท รวมทั้งปีจ่าย 0.15 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล หรือ Dividend Yield ที่ 9% ต่อปี ซึ่งแสนสิริเป็นหนึ่งในบริษัทอสังหาฯ ชั้นนำที่จ่ายปันผลอัตราสูงต่อเนื่องตลอดหลายปีที่ผ่านมา</p><p> ปี 2568 ยังคงเป็นอีกหนึ่งปีที่ท้าทายสำหรับภาคอสังหาริมทรัพย์ แต่มีสัญญาณบวกจากการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายล่าสุดจาก 2.25%เป็น 2% ต่อปี ซึ่งคาดว่าจะส่งผลดีต่อผู้ที่กำลังมองหาบ้านใหม่ โดยช่วยให้ตัดสินใจได้รวดเร็วขึ้น และมีโอกาสในการเข้าถึงสินเชื่อได้มากขึ้น</p><p> อย่างไรก็ตามนโยบาย LTV (อัตราส่วนเงินกู้ต่อมูลค่าหลักประกัน) ยังคงเป็นข้อจำกัดสำคัญที่ภาคอสังหาฯ มีความหวังที่จะได้รับการผ่อนปรนจากหน่วยงานกำกับดูแล จากข้อกำหนดปัจจุบันให้ผู้ซื้อบ้านราคาสูงกว่า 10 ล้านบาท ต้องวางเงินดาวน์อย่างน้อย 30% หากมีการปรับลด LTV ในทุกระดับราคา จะช่วยกระตุ้นกำลังซื้อในตลาดได้เป็นอย่างมาก</p><p> “แสนสิริยังคงมุ่งมั่นพัฒนาธุรกิจและเดินหน้าเติบโตต่อไปอย่างแข็งแกร่ง ควบคู่ไปกับการให้ความสำคัญกับสังคมและการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเชื่อว่าเป็นส่วนสำคัญในการสร้างความยั่งยืนในอนาคต ด้วยแผนธุรกิจภายใต้แนวคิด Dynamic Growth เติบโตแข็งแกร่ง ด้วยการวางแผนเปิดตัว 29 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 52,000 ล้านบาท (แนวราบ 14 โครงการ และคอนโดมิเนียม 15 โครงการ) โดยตั้งเป้าหมายยอดขายในปี 2568 ไว้ที่ 53,000 ล้านบาท และเป้าหมายยอดโอน 46,000 ล้านบาท</p><p> โดยเตรียมขยายพอร์ตสินค้าระดับลักซ์ชัวรี เตรียมเปิดตัว “นาราสิริ บางนา กม.10” มูลค่าโครงการ 4,100 ล้านบาท หนึ่งในไฮไลต์ของSANSIRI 10 EAST ลักซ์ชัวรีคอมมูนิตี้ใหม่ย่านบางนาของแสนสิริที่เตรียมเผยโฉมให้ชมแบบ Private Viewing ครั้งแรกเร็วๆ นี้ พร้อมเดินหน้าเปิดโครงการใน Strategic Location เช่น ภูเก็ต พัทยา เพิ่มเติม หลังจากได้รับการตอบรับที่ดีมากในปีที่ผ่านมา</p><p style="font-size:13px;">2/3/2568 ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ ( 2 มีนาคม 2568 )</p>