อัพเดตรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ ล่าสุดมีความคืบหน้าถึงไหน ?

<p></p><p>‘กรมราง’ ลงพื้นที่ตรวจเช็กงานก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ คาดเปิดใช้ในปี 2571</p><p> วันที่ 13 มิถุนายน 2567 รายงานข่าวจากกรมการขนส่งทางราง (ขร.) ระบุว่า เมื่อวานนี้ นายอธิภู จิตรานุเคราะห์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางราง พร้อมด้วยนายเรืองเดช มังกรเดชสกุล ผู้อำนวยการกองยุทธศาสตร์และแผนงาน และคณะเจ้าหน้าที่ ขร.ร่วมลงพื้นที่ติดตามงานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) หรือสายสีม่วงใต้ เพื่อติดตามความคืบหน้างานก่อสร้าง การขุดเจาะอุโมงค์ การบริหารจัดการจราจรบริเวณพื้นที่ก่อสร้าง มาตรการลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งมาตรการป้องกันอุบัติเหตุจากการก่อสร้าง</p><p> โครงการรถไฟฟ้าสายม่วงใต้ มีระยะทางรวม 23.6 กิโลเมตร จำนวน 17 สถานี แบ่งเป็น</p><p> 1.โครงสร้างทางวิ่งใต้ดิน ระยะทาง 13.6 กิโลเมตร สถานีใต้ดิน 10 สถานี ได้แก่ สถานีรัฐสภา สถานีศรีย่าน สถานีวชิรพยาบาล สถานีหอสมุดแห่งชาติ สถานีบางขุนพรหม สถานีอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย สถานีสามยอด สถานีสะพานพุทธ สถานีวงเวียนใหญ่ สถานีสำเหร่</p><p> 2.โครงสร้างทางวิ่งยกระดับ ระยะทาง 10 กิโลเมตร สถานียกระดับ 7 สถานี ได้แก่ สถานีดาวคะนอง สถานีบางปะแก้ว สถานีบางปะกอก สถานีประชาอุทิศ สถานีราษฎร์บูรณะ สถานีพระประแดง และสถานีครุใน</p><p> เชื่อมต่อการเดินไปยังรถไฟฟ้าสายอื่น ๆ ประกอบด้วย</p><p> 1.สถานีอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เชื่อมต่อสถานีอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยของรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ช่วงศูนย์วัฒนธรรมฯ-บางขุนนนท์)</p><p> 2.สถานีสามยอด เชื่อมต่อสถานีสามยอดของสายสีน้ำเงิน (ช่วงหัวลำโพง-บางแค (หลักสอง))</p><p> 3.สถานีวงเวียนใหญ่ เชื่อมกับสถานีวงเวียนใหญ่ของสายสีเขียว (ช่วงสนามกีฬาแห่งชาติ-บางหว้า) และสถานีวงเวียนใหญ่ของรถไฟทางไกลสายแม่กลอง รวมทั้งมีอาคารจอดแล้วจร (Park & Ride) 2 แห่ง ที่สถานีบางปะกอกและสถานีราษฎร์บูรณะ สามารถรองรับได้ประมาณ 1,700 คัน</p><p> สำหรับการลงพื้นที่ในครั้งนี้ ขร. ได้มีการติดตามความคืบหน้าของการก่อสร้าง ณ จุดต่าง ๆ ได้แก่ บริเวณกองพลทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน สถานีอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย สถานีสามยอด สถานีโรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า และสถานีพระประแดง โดยปัจจุบันมีความคืบหน้างานโยธาในภาพรวม ณ เดือนพฤษภาคม 2567 คิดเป็นร้อยละ 33.82 และแบ่งออกเป็น 6 สัญญา ดังนี้</p><p> สัญญาที่ 1 ช่วงเตาปูน-หอสมุดแห่งชาติ ระยะทาง 4.87 กม. ความคืบหน้าร้อยละ 45.38</p><p> สัญญาที่ 2 ช่วงหอสมุดแห่งชาติ-ผ่านฟ้า ระยะทาง 2.34 กม. ความคืบหน้าร้อยละ 40.88</p><p> สัญญาที่ 3 ช่วงผ่านฟ้า-สะพานพุทธ ระยะทาง 3.12 กม. ความคืบหน้าร้อยละ 30.75</p><p> สัญญาที่ 4 ช่วงสะพานพุทธ-ดาวคะนอง ระยะทาง 4.12 กม. ความคืบหน้าร้อยละ 32.83</p><p> สัญญาที่ 5 ช่วงดาวคะนอง-ครุใน ระยะทาง 9.34 กม. ความคืบหน้าร้อยละ 14.88</p><p> สัญญาที่ 6 งานออกแบบและก่อสร้างระบบรางตลอดแนวเส้นทางโครงการ ความคืบหน้าร้อยละ 21.78 คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในช่วงปี พ.ศ. 2571</p><p> ขร.ได้ติดตามในประเด็นสำคัญต่าง ๆ ได้แก่ ประเด็นการขุดเจาะอุโมงค์ทางวิ่งใต้ดินของสัญญาที่ 1 ช่วงเตาปูน-หอสมุดแห่งชาติ โดยใช้หัวเจาะ 3 หัว มีความคืบหน้าดังนี้</p><p> หัวเจาะที่ 1 เป็นหัวเจาะอุโมงค์ทางวิ่ง เริ่มจากตำแหน่ง Cut & Cover ไปถึงสถานีอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ระยะทางประมาณ 6 กม. เริ่มดำเนินการแล้วตั้งแต่วันที่ 26 เมษายน 2567 ปัจจุบันขุดเจาะได้แล้ว 180 เมตร</p><p> หัวเจาะที่ 2 เป็นหัวเจาะอุโมงค์ทางวิ่ง เริ่มจากตำแหน่ง Cut & Cover ไปถึงสถานีหอสมุดแห่งชาติ ระยะทางประมาณ 4 กม. เริ่มดำเนินการแล้วตั้งแต่วันที่ 4 มิถุนายน 2567 ปัจจุบันขุดเจาะได้แล้ว 2 เมตร</p><p> หัวเจาะที่ 3 เริ่มจากสถานีหอสมุดแห่งชาติ ไปยังสถานีอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ระยะทางประมาณ 2 กม. โดย ขร.ได้กำชับให้ผู้รับจ้างดำเนินการก่อสร้างให้เป็นไปตามแผน และคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นสำคัญ</p><p> สร้างสถานีอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยร่วมกับการอนุรักษ์โบราณสถาน</p><p> ส่วนประเด็นการก่อสร้างสถานีอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยร่วมกับการอนุรักษ์โบราณสถาน ตึก 2 ชั้น 7 คูหา โดยปัจจุบันได้ข้อสรุปแนวทางการก่อสร้างโดยไม่ต้องเวนคืนที่ดินเพิ่มเติม สำหรับการรื้อย้ายโบราณสถาน จะดำเนินการตามแนวทางที่ได้หารือกับกรมศิลปากร โดยตัดชิ้นส่วนโบราณสถานและรื้อย้ายออก เพื่อดำเนินการก่อสร้าง จากนั้นจึงนำชิ้นส่วนมาประกอบคืนสภาพเดิม โดย ขร.ได้เสนอให้ รฟม.เร่งเสนอกรมศิลปากรเพื่อพิจารณารายละเอียดการอนุรักษ์ วิธีรื้อถอน และจัดเก็บชิ้นส่วนโบราณสถาน และติดตามผลอย่างใกล้ชิด เพื่อให้การก่อสร้างสามารถดำเนินต่อไปได้</p><p> นอกจากนั้น ยังได้ติดตามประเด็นปัญหาการจราจรติดขัดบริเวณอำเภอพระประแดง โดยเฉพาะบริเวณตลาดครุใน ซึ่งผู้รับจ้างได้ปิดช่องทางจราจร ในช่องริมเกาะกลางทั้ง 2 ฝั่ง ฝั่งละ 1 ช่องจราจร ทำให้คงเหลือช่องจราจรฝั่งละ 3 ช่อง ประกอบกับช่องจราจรริมทางเดินเท้า ฝั่งหน้าตลาดครุใน มักมีพาหนะ วินมอเตอร์ไซค์ และรถเข็นขายของจอดกีดขวางช่องจราจร ทำให้การจราจรเป็นคอขวดและติดขัด</p><p> โดย รฟม.ได้ประสานขอความร่วมมือจาก สภ.พื้นที่ในการกวดขันวินัยจราจร ซึ่งทาง สภ.พระประแดง ได้ให้ความร่วมมือโดยมีการจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจจราจรตลอดแนวเส้นทางก่อสร้าง บริเวณอำเภอพระประแดง ตั้งแต่ช่วง 05.30 น. จนกว่าสถานการณ์รถติดจะบรรเทา ทั้งนี้ สภ.พระประแดง ได้ขอให้ รฟม.จัดทำป้ายเตือนห้ามจอดเพิ่มเติมในรูปแบบเชิงถาวร เพื่อให้ผู้ที่สัญจรไปมาเกิดความตระหนักในวินัยจราจรมากขึ้น</p><p style="font-size:13px;">13/6/2567 ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ ( 13 มิถุนายน 2567 )</p>