‘พลังงาน’ ผนึก ‘ปตท.-กกพ.-กฟผ.’ เปิดตัว โครงการเฉลิมพระเกียรติในหลวง 72 พรรษา

<p></p><p>กระทรวงพลังงาน ผนึก ‘ปตท.-กกพ.-กฟผ.’ น้อมเกล้าฯ สนองพระราชปณิธาน “ในหลวง” จัดโครงการยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนชาวไทยเพื่อเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567</p><p> วันที่ 24 กรกฎาคม 2567 นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พร้อมด้วยคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) รวมทั้งคณะผู้บริหารระดับสูง ส่วนราชการและการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.)</p><p> ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงพลังงาน ร่วมกันถวายราชสักการะแด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมกับแถลงข่าว “กิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567”</p><p> นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า เนื่องในโอกาสมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 6 รอบ 72 พรรษา 28 กรกฎาคม 2567 กระทรวงพลังงาน รัฐวิสาหกิจในสังกัด และ กกพ. น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยได้ดำเนินโครงการและกิจกรรมเพื่อสืบสานพระราชปณิธานของพระองค์ท่านในการจะ ”สร้างประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎรตลอดไป” ด้วยการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในหลากหลายด้าน</p><p> ในส่วนของกระทรวงพลังงาน ทั้งจากสำนักงานปลัดกระทรวงพลังงาน กฟผ. และ ปตท. ได้เข้าร่วมโครงการและกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครอบคลุมในทุกมิติ ทั้งในด้านพลังงาน สังคม และสิ่งแวดล้อม”</p><p> “ผมต้องการให้โครงการเหล่านี้ครอบคลุมประชาชนทั่วประเทศให้ได้มากที่สุด จึงต้องแบ่งการดำเนินโครงการเป็นระยะ ๆ โดยเริ่มโครงการด้าน Solar เพื่อให้เข้าถึงเกษตรกร และประชาชนผู้มีรายได้น้อยแต่หลังจากนี้จะขยายไปสู่โรงพยาบาล โรงเรียน ในลำดับต่อไป</p><p> ด้านเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับพระราชกรณียกิจ ปตท. ได้มีการจัดทำหนังสือที่ระลึกเพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งจะรวบรวมพระราชประวัติพระอัจฉริยภาพด้านต่าง ๆ ภาพถ่ายอันทรงคุณค่าจากพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระราชกรณียกิจการพัฒนาด้านพลังงาน พระราชดำรัสและพระบรมราโชวาทที่ทรงมีแก่ประชาชนชาวไทย การดำเนินโครงการต่าง ๆ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลฯ ซึ่งจัดพิมพ์จำนวน 1,072 เล่มด้วย</p><p> กกพ. ทุ่มงบ 457 ล้าน ติดโซลาร์ 73 รพ.</p><p> นายเสมอใจ ศุขสุเมฆ ประธานกรรมการกำกับกิจกรรมการพลังงาน (กกพ.) กล่าวว่า ด้านส่งเสริมสุขภาพประชาชน กกพ. ในฐานะหน่วยงานในกำกับฯ ได้จัดสรรงบประมาณจากกองทุนพัฒนาไฟฟ้าติดตั้งผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ให้กับสถานพยาบาล 73 แห่ง เพื่อลดค่าใช้จ่ายค่าไฟฟ้าและนำงบประมาณที่เหลือใช้ไปดูแลประชาชนให้เข้าถึงการให้บริการทางการแพทย์และการสาธารณสุขที่มีคุณภาพได้อย่างทั่วถึงเพิ่มขึ้น อีกทั้งยังเป็นการสนองพระบรมราโชบายที่ทรงต้องการสืบสาน ต่อยอด โครงการ</p><p> ในพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ได้ทรงริเริ่มการส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานหมุนเวียนมาใช้ประโยชน์อีกด้วย</p><p> ” โครงการของ กกพ.ได้วางงบประมาณไว้ที่ 457 ล้านบาท จากกองทุนพัฒนาไฟฟ้า โดยการติดตั้งแผงโซลาร์ที่มีขนาดกำลังการผลิต 15.5 เมกะวัตต์ ซึ่งจะช่วยลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 11,872 ตัน และช่วยลดค่าไฟได้ 86 ล้านบาท”</p><p> ทั้งนี้การให้ความช่วยเหลือทั้ง 73 โครงการแบ่งเป็น</p><p> 1.โรงพยาบาลในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข 53 โครงการ 173 ล้านบาท ขนาดกำลังการผลิตไฟฟ้า 5.8 เมกะวัตต์ ช่วยลดคาร์บอนไดออกไซด์ 3,900 ตันคาร์บอนและลดค่าไฟ 30 ล้านบาท</p><p> 2.โรงพยาบาลในส่วนของกรมอนามัย 7 แห่ง งบประมาณ 28 ล้านบาท ผลิตไฟ 935 กิโลวัตต์ ช่วยลดค่าไฟได้ 7.6 ล้านบาท และลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ 721 ตันคาร์บอน</p><p> 3.ในส่วนของโรงพยาบาลสังกัดกรุงเทพมหานคร 9 แห่ง งบประมาณ 79 ล้านบาทขนาดกำลังการผลิต 2.7 เมกะวัตต์ ช่วยลดคาร์บอนได้ 2,182 ตันคาร์บอน และลดค่าไฟได้ 14 ล้านบาท</p><p> 4.โรงพยาบาลในส่วนของคณะแพทยศาสตร์ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) จำนวน 10 แห่ง งบประมาณลงทุน 176 ล้านบาท กำลังการผลิต 6 เมกะวัตต์ ช่วยลดคาร์บอนได้ 5,000 ตันคาร์บอน และช่วยประหยัดค่าไฟได้ 34 ล้านบาท</p><p> ทั้งนี้ปัจจุบันได้ดำเนินการเสร็จสิ้นไปแล้ว 44 โครงการ จากทั้งหมด 73 โครงการ โดยมีแผนที่จะขยายผลไปสู่โครงการต่าง ๆ อีกประมาณ 381 แห่ง ซึ่งคาดว่าก็จะใช้เงินกองทุนเช่นกัน</p><p> “กกพ.มุ่งหวังลดค่าใช้จ่ายสาธารณูปโภคด้านไฟฟ้าและคาดว่าจะประหยัดค่าไฟฟ้าให้กับโรงพยาบาลของรัฐได้ถึง 86,213,686 บาทต่อปี อีกทั้งโรงพยาบาลสามารถนำค่าใช้จ่ายที่ประหยัดได้ดังกล่าวไปสนับสนุนภารกิจในการดูแลประชาชนที่เข้ามารับบริการทางการแพทย์และการสาธารณสุขกับโรงพยาบาลให้ดียิ่งขึ้น การดำเนินโครงการดังกล่าวสามารถลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์รวม 11,872 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี</p><p> กฟผ.ดัน 10 โครงการ</p><p> นายเทพารักษ์ เทพพิทักษ์ ผู้ว่าการ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวว่า ในส่วนของ กฟผ.ดำเนินการทั้งหมด 10 โครงการ สืบสานพระราชปณิธานองค์ราชันของ กฟผ.</p><p> สำหรับ 10 โครงการสืบสานพระราชปณิธานองค์ราชัน” ประกอบด้วย</p><p> 1) โครงการสนับสนุนการดำเนินงานโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช 21 แห่งทั่วประเทศ โดยล้างเครื่องปรับอากาศ ติดตั้งนวัตกรรมระบบหมุนเวียนและบำบัดอากาศ (City Tree) สร้างอากาศที่ดีให้ผู้ป่วย พร้อมสนับสนุนเลนส์ตาเทียมสำหรับผู้ป่วยและผู้สูงอายุ</p><p> 2) โครงการติดตั้งระบบไฟฟ้าโซลาร์เซลล์เบอร์ 5 ในพื้นที่โครงการหลวง ได้แก่ ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงเลอตอ จังหวัดตาก ขนาด 16 กิโลวัตต์ และศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรโครงการหลวง ชนกาธิเบศรดำริ จ.เชียงใหม่ ขนาด 72 กิโลวัตต์</p><p> 3) โครงการติดตั้งระบบไฟฟ้าโซลาร์เซลล์เบอร์ 5 วัดมหาธาตุวชิรมงคล (วัดบางโทง) จ.กระบี่ ขนาด 72 กิโลวัตต์</p><p> 4) โครงการออกหน่วยให้บริการแว่นตาในพื้นที่เป้าหมาย 43 แห่ง รวมถึงมอบแว่นตาแก่กลุ่มเปราะบาง จำนวนรวมทั้งสิ้น 72,000 อัน</p><p> 5) โครงการโคก หนอง นา ต่อยอด 72 แปลง ด้วยการสนับสนุนนวัตกรรมระบบสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์</p><p> 6) โครงการจัดตั้งห้องเรียนสีเขียว Smart Green Learning Room และปรับปรุงประสิทธิภาพพลังงาน ณ โรงเรียนมัธยมวชิราลงกรณวราราม จ.นครราชสีมา</p><p> 7) โครงการสนับสนุนชุดนักเรียนเบอร์ 5 จำนวน 72,000 ชุด ในกลุ่มโรงเรียนในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร กลุ่มโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ทั่วประเทศ และกลุ่มโรงเรียนในโครงการกองทุนการศึกษา</p><p> 8) โครงการสนับสนุนการดำเนินงานมูลนิธิกาญจนบารมี สนับสนุนรถตรวจคัดกรองมะเร็งนรีเวชพร้อมอุปกรณ์ทางการแพทย์ จำนวน 1 คัน</p><p> 9) โครงการสวนสุขภาพเฉลิมพระเกียรติ ในพื้นที่ 72 ไร่ ณ เขื่อนวชิราลงกรณ จ.กาญจนบุรี</p><p> โดยปรับพื้นที่เพื่อสร้างสนามแข่งขันจักรยาน พื้นที่ทำกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพ</p><p> 10) โครงการจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติฯ ณ เขื่อนวชิราลงกรณ จ.กาญจนบุรี ระหว่างวันที่ 25 – 28 กรกฎาคม 2567</p><p> คาดจะสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ประมาณ 2,800 ตันต่อปี ลดค่าใช้จ่ายด้านไฟฟ้าประมาณ 26.6 ล้านบาทต่อปี</p><p> ปตท. ปลูกป่า-ผุดสวนกลางกรุง</p><p> นายคงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. ปตท. กล่าวว่า ในส่วนของ ปตท.ได้ดำเนินการทั้งหมด 5 เรื่อง ได้แก่ 1) โครงการพัฒนาพื้นที่กำแพงเพชร 6 ขนานแนวโครงการพัฒนาคลองเปรมประชากรเฉลิมพระเกียรติ</p><p> ที่ ปตท. จัดสรรพื้นที่ จำนวน 10 ไร่ ติดคลองเปรมประชากร เพื่อสร้างพื้นที่สีเขียวและอาคารนิทรรศการ รวมถึงท่าเรือและพื้นที่สาธารณประโยชน์ของชุมชน เพื่อสืบสาน และขยายผลต่อยอดพระบรมราโชบายในการพัฒนาแม่น้ำ ลำคลองและแหล่งน้ำต่าง ๆ</p><p> 2) ผลิตและเผยแพร่ หนังสั้นเฉลิมพระเกียรติฯ 2 เรื่อง คือ เรื่องรูปวาดจากอนาคต และ เรื่องคาเฟ่ เพื่อเผยแพร่พระราชกรณียกิจและผลสัมฤทธิ์ของการดำเนินโครงการด้านการพัฒนาแหล่งน้ำทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตประชาชน ตามพระบรมราโชบาย จำนวน 10 โครงการทั่วประเทศ เผยแพร่ตั้งแต่วันนี้ถึง 3 สิงหาคม 2567 ทางโทรทัศน์และสื่อออนไลน์</p><p> 3) กิจกรรมแสดง แสง สี เสียง เฉลิมพระเกียรติ “ลำนำนที วารีสมโภช” ณ สวนสันติชัยปราการ (ป้อมพระสุเมรุ) เพื่อให้ประชาชนได้รับชมหนังสั้นเฉลิมพระเกียรติ พร้อมร่วมกิจกรรม อาทิ การแสดงแสง สี เสียงและ 3D Mapping ที่ป้อมพระสุเมรุ การละเล่นจากชุมชนบางลำพู ดนตรีในสวน กิจกรรม workshop ร้านค้าชุมชน และนิทรรศการโครงการตามพระบรมราโชบาย</p><p> พระราชกรณียกิจและผลสัมฤทธิ์ของการดำเนินโครงการด้านการพัฒนาแหล่งน้ำ รวมทั้งล่องเรือในเส้นทางสุดพิเศษจากป้อมพระสุเมรุไปยังป้อมมหากาฬ จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 26 – 28 กรกฎาคม 2567 เวลา 16.00 น. เป็นต้นไป ณ บริเวณสวนสันติชัยปราการ ถนนพระอาทิตย์</p><p> 4) กิจกรรมพัฒนาคุณภาพชีวิตชุมชนอย่างยั่งยืน โดยพัฒนาการปลูกและการผลิตกาแฟระบบอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ โครงการหลวงเลอตอ อ.แม่ระมาด จ.ตาก ซึ่ง ปตท. โออาร์ และโครงการหลวง ร่วมสืบสานพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในการสืบสาน รักษา ต่อยอดงานของมูลนิธิโครงการหลวงเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของชาวไทยภูเขา ลดการปลูกฝิ่น และฟื้นฟูป่าต้นน้ำลำธาร</p><p> 5) กิจกรรมปลูกป่า จำนวน 72,000 ไร่ เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครอบคลุมพื้นที่ป่าทั่วประเทศ เพื่อฟื้นฟูระบบนิเวศ แหล่งต้นน้ำ ส่งเสริมความหลากหลายทางชีวภาพ เพิ่มแหล่งดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ด้วยวิธีทางธรรมชาติ และลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ</p><p> ทั้งนี้ คาดว่าจะสามารถช่วยดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ 68,400 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี</p><p> โครงการและกิจกรรมพิเศษที่ กลุ่ม ปตท. ร่วมดำเนินการในครั้งนี้ เป็นการเผยแพร่พระราชกรณียกิจและโครงการตามพระบรมราโชบายของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ได้ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจ เพื่อประโยชน์สุขของประชาชน และสร้างคุณภาพชีวิตของคนไทยให้ดียิ่งขึ้น</p><p> ประกวดนวัตกรรมพลังงาน</p><p> นางสาวนันธิกา ทังสุพานิช รองปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า กระทรวงพลังงานมีความยินดีและพร้อมสนับสนุนโครงการเพื่อเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย</p><p> ทั้งนี้ ในส่วนของกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) ก็มีโครงการประกวดนวัตกรรมด้านพลังงานและพลังงานทดแทนภาคประชาชน เพื่อพัฒนานักออกแบบนวัตกรรมด้านพลังงานภาคประชาชน พัฒนานวัตกรรมด้านพลังงานที่ใช้งานได้จริง และเชิดชูประชาชนผู้มีแนวคิดสร้างสรรค์นวัตกรรมด้านพลังงานที่เป็นการช่วยเหลือและสร้างประโยชน์ต่อสังคม นอกจากนั้น จะลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือทางวิชาการและเชิงพาณิชย์เพื่อการต่อยอดและขยายผลอย่างยั่งยืน ระหว่างเดือนกรกฎาคม – ธันวาคม 2567 คาดว่าผลลัพธ์จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการพัฒนานวัตกรรมด้านพลังงานของไทยอย่างยั่งยืน</p><p> นอกจากนั้น กระทรวงพลังงาน ร่วมกับ กฟผ. อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลพระราชกรณียกิจด้านพลังงานและคัดสรรภาพประกอบเพื่อนำมาจัดพิมพ์เป็นหนังสือ เชื่อว่าจะเป็นหนังสือที่ทรงคุณค่า และสมพระเกียรติ</p><p> ไฟฟ้าเพื่อประชาชน</p><p> พร้อมกันนี้ กระทรวงพลังงานได้จัดทำโครงการไฟฟ้าเพื่อประชาชน โดยมอบหมายให้พลังงานจังหวัดสำรวจพื้นที่ที่ยังขาดแคลนและมีความต้องการใช้ไฟฟ้า โดยให้ประสานกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคและการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เพื่อดำเนินการติดตั้งไฟฟ้าโซลาร์สูบแบบชักจูงจำนวน 5,000 แห่ง</p><p> ขณะเดียวกันในส่วนของ สำนักงานตำรวจตระเวนชายแดนได้มีการสำรวจพื้นที่ที่ยังขาดแคลนและมีความจำเป็นต้องใช้ไฟฟ้าอีก 4,500 แห่งเข้ามาเพิ่มเติม ซึ่งทางกระทรวงจะตรวจสอบเพื่อดับเบิลเช็กว่ามีพื้นที่ใดที่เป็นพื้นที่ซ้ำซ้อนกันหรือไม่ เพื่อที่จะติดตั้งแผงโซลาร์ให้ครบ โดยจะทยอยดำเนินการเป็นเฟส ๆ มีเป้าหมายเพื่อให้ประชาชนสามารถประหยัดค่าไฟฟ้าและช่วยลดคาร์บอน</p><p> “จะเห็นได้ว่า การดำเนินโครงการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ของกระทรวงพลังงานมีครบทั้งมิติด้านพลังงาน มิติด้านสังคม และมิติด้านสิ่งแวดล้อม และกิจกรรมไม่ได้จัดแค่ช่วงเดือนกรกฎาคมเท่านั้น จะมีการจัดกิจกรรมไปตลอดจนถึงสิ้นปี 2567 ” นางสาวนันธิกา กล่าว</p><p style="font-size:13px;">24/7/2567  ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ ( 24 กรกฎาคม 2567 )</p>